รวมเคล็ดไม่ลับเรื่องผู้หญิงตั้งครรภ์ – ให้นมลูก
ผู้หญิงอย่างเราๆ จะมีลูก ก็ต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม เรามาดูเคล็ดไม่ลับที่บรรดาแม่ๆ เค้ามาเขียนบอกกันว่า ช่วงตั้งครรภ์ จนถึงให้นมลูก . . . เค้ากินอะไรกันบ้าง? ออกกำลังกายกันไหม? และดูแลผม ผิว เรือนร่างกันอย่างไรบ้าง รวมถึงการดูแลจิตใจอย่างไรในช่วงสำคัญเช่นนี้. . .
ทานโปรตีนดีๆ ไม่ติดมัน
เพราะโปรตีนช่วยเรื่องพัฒนาของร่างกาย ทั้งแม่และเด็กในครรภ์
ผู้หญิงเรา ถ้าหนัก 50kg. ก็ควรทานโปรตีนอย่างน้อย 50g. ต่อวัน (หน่วยเป็นกรัมนะคะ ไม่ใช่กิโลกรัม)
ยิ่งถ้าเป็นแม่ๆแล้ว ยิ่งต้องเอา น้ำหนักตัว คูณ 1.5 หรือ คูณ 2 ก็คือ แม่ๆควรทานโปรตีน 75 – 100 g. ต่อวัน เป็นต้น
ที่แน่ๆ อย่างน้อย แม่ๆก็ควรทานไข่ต้มให้ได้วันละ 2 ฟอง เป็นพื้นฐานก่อนเลย. . .
นอกจากนี้ แนะนำให้ทานโปรตีนจากพืช เพราะมีไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง ร่างกายก็จะแลดูอ่อนวัยกว่าการบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากกว่า
โปรตีนจากพืชได้แก่ ถั่วลันเตา นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง เต้าหู้ นมแพะ ธัญพืชต่างๆ เมล็ดฟักฟักทอง งาดำ เป็นต้น
โปรตีนจากสัตว์ที่แนะนำ ได้แก่ ปลาในพื้นถิ่นของบ้านเราก็ได้ ปลาแซลมอนก็ได้ อกไก่ เป็นต้น
กรดไขมัน DHA และ ARA
ก็คือโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ดีต่อการพัฒนาการของเนื้อสมองในทารก พัฒนาระบบประสาท สมอง และการมองเห็นของลูกน้อย ธัญพืชที่พบเยอะ เช่น เมล็ดแฟล็กซีด แม่ๆก็ลองบดแฟล็กซีดและใส่ในนม เป็นต้นนะคะ
กินอะโวคาโด วันละ ครึ่งผล ราดน้ำผึ้ง
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 – 10 แก้ว (น้ำอุ่นช่วยให้แม่มีน้ำนมไหลเวียนดี)
กินแอ๊ปเปิ้ล
มีวิตามินและแร่ธาตุเยอะ อีกทั้งช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอก ของคุณแม่ๆ (ที่กรดอาจจะไหลย้อน) คุณแม่จะได้ไม่อ้วนกันด้วยนะจ๊ะ
กินอินทผาลัม
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อมดลูก ช่วงใกล้คลอด
แร่ธาตุในอินทผาลัม ทำให้น้ำนมแม่ไปช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แก่ลูก
ลดอาการซึมเศร้าหลังคลอด
ปริมาณที่ควรทาน ไม่เกิน 7 เม็ดต่อวัน (เพราะเดี๋ยวน้ำตาลในเลือดจะสูงเกินไป)
เมล็ดขนุนต้ม
มีแร่ธาตุไม่แพ้กัน ช่วยกระตุ้นน้ำนม
น้ำหัวปลี
ช่วยกระตุ้นและบำรุงน้ำนมแม่ อุดมด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง มีจำหน่ายมากมายในตลาดนะคะ เช่น MommyBooster เป็นต้น
น้ำกระเจี๊ยบแดง
ผู้หญิงเรา. . .ตอนปกติ เราก็ดื่มได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องปัสสาวะขัด ปวดปัสสาวะบ่อย แต่ออกนิดเดียว ต้องดื่มน้ำกระเจี๊ยบร้อนเลยนะคะ . . . ลดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่วยขับปัสสาวะ ขับนิ่ว
ตอนท้องก็ดื่มได้นะคะ 1 – 2 แก้ว โดยกดน้ำร้อน และใส่ดอกกระเจี๊ยบแดง 2 – 3 ดอกลงไป รอจนน้ำออกสีแดง ถึงค่อยจิบๆ ชุ่มคออีกด้วยนะ
#กระเจี๊ยบยี่ห้อดอยคำ #แต่ก็ดื่มให้พอดี #ดื่มให้หายอยาก
ผักใบเขียว
ทานผักใบเขียวกันนะคะ จะได้ขับถ่ายคล่อง ท้องไม่ผูก
แถมใบผักเขียวยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย
และที่สำคัญ เราจะได้เป็นคุณแม่ที่สุขภาพดี ไม่น้ำหนักขึ้นเกินมาตราฐานยังไงละคะ
หมายเหตุ การกินผัก หรือเส้นใยเยอะๆ ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อการเคลื่อนตัวของเส้นใยและลำไส้ด้วยนะ
กรณี แพ้ท้อง
สาเหตุที่แพ้ท้อง อาจจะเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดของแม่ๆลดลงอย่างไม่ทันตั้งตัวนะคะ
แม่ๆ อาจจะลองดื่มสูตร น้ำอุ่น 1 แก้ว + น้ำผึ้ง 1 – 2 ช้อนชา + มะนาว 1 ลูก ก็ช่วยให้ชื่นใจได้
ทั้งนี้ เวลาแม่ๆอยากของหวาน อยากให้คิดถึง การใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล จะดีกว่าค่ะ
เพราะในน้ำผึ้ง นอกจากให้ความหวาน ให้แม่ๆได้ชื่นใจแล้ว ยังมีแร่ธาตุดีๆมากมายแก่ร่างกาย
อีกทั้ง Miranda kerr นางแบบเก่า คนสวยของ Victoria’s Secret แนะนำให้ลองดมกลิ่นของ Grapefruit เพื่อให้อาการแพ้ท้องดีขึ้นด้วยนะคะ
กรณี น้ำคร่ำน้อย
แพทย์สั่งให้กินนมวันละ 1 ลิตร+ไข่วันละ 4 ฟอง เป็นเวลา 2 อาทิตย์ แล้วกลับมาซาวด์ใหม่
#คือแค่สองอาทิตย์นะจ๊ะ #หลังจากนั้นคือทานปกติ
(ขอบคุณเครดิตจากเว็บไซต์ : https://pantip.com/topic/30913499)
ป้องกันท้องแตกลาย
ทาน้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา น้ำมันมะกอก น้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติ เป็นต้น หรือ ในตลาดก็มีหลายยี่ห้อนะคะ เช่น palmer’s เป็นต้น ให้เริ่มทาตั้งแต่รู้ว่าท้องเลยนะคะ เพื่อให้ผิวที่ท้องชุ่มชื่น ยืดหยุ่น รวมถึงต้องคุมอาหาร ไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยให้ทานแต่โปรตีนดีๆ ลดของหวาน ของมัน ของเค็มไปเลยนะคะ อาจจะโหยหน่อย . . แต่เชื่อเถอะว่าโหย แค่ 3 – 4 วัน ถ้าผ่านมาได้ มันจะไม่โหยแล้ว
(ให้รางวัลตัวเองได้ เช่น กินชอคโกแลต อาทิตย์ละ 1 ชิ้น เป็นต้น)
ฝึกขมิบเป็นประจำ
ฝึกขมิบเหมือนเวลาเรากำลังจะหยุดน้ำปัสสาวะ เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อช่วงอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง (ก่อนที่จะฝึกขมิบ ให้ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนนะจ๊ะ)
นั่งสมาธิเป็นประจำ
การฝึกสมาธิ ช่วยให้สมองผ่อนคลาย ร่างกายที่ตึงเครียดก็จะค่อยๆผ่อนคลายตามไปด้วย. . .
เมื่อสมองผ่อนคลาย ฮอร์โมนที่ดี ก็จะหลั่งออกมาให้ความสุขแก่จิตของเราด้วยนะคะ
แม่มีความสุข ผ่อนคลาย. . . ก็ดีต่อพัฒนาการของลูกไม่ใช่หรือ?
การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกในท้อง
การพูดคุยกับลูกในท้อง / ลูบหน้าท้อง / เปิดเพลงให้ลูกฟัง / อ่านหนังสือให้ลูกฟัง /
เล่นไฟฉายกับลูก (เหมือนเล่นแสงไฟฉายกับแมวน้อย)
ทั้งหมดทั้งมวล ลูกในท้องรับรู้ได้ และยังช่วยเสริมพัฒนาการของลูกอีกด้วยนะ
#ทางสายกลาง #ไม่ตึงไป #ไม่หย่อนไป #กินให้หายอยากได้ #แต่ให้พอดีเนอะ
รวบรวมข้อมูลโดยอะฮั้นเอง แอดมิน klassywoman
เครดิตภาพ i.pinimg.com