ฉันเกิดมาก็ได้รับมรดกผิวมัน T-Zone มาเลยค่ะ โดยเฉพาะที่คาง สิวมักจะก่อกำเนิดอยู่อย่างเนืองๆ คล้ายภูเขาไฟที่รอคอยการระเบิดวันแล้ววันเล่า ลูกแล้วลูกเล่า จนคางมีแต่รอยสิว . . . แล้วฉันหายได้อย่างไรกัน (มีสรุปเป็นข้อสั้นๆไว้ตอนท้าย)

ข้อแรกเลยและสำคัญมากก คือ การล้างหน้า จากที่ฉันเคยล้างหน้าไปวันๆ เพียงเพราะคิดว่าเครื่องสำอางต่างๆ หรือครีมกันแดดก็คงจะหลุดหมดแล้วมั้ง . . . . ซึ่งจริงๆแล้ว พอลองเช็ดหน้า สำลีมีแต่คราบรองพื้นเต็มแผ่นเลยจ้า ฉันเริ่มหันมาเช็ดเครื่องสำอางค์อย่างจริงจังทุกครั้งก่อนจะล้างหน้า (เช็ดคราบรองพื้น บรัชออน คราบฝุ่นควันจากท้องถนน คราบมาสคาร่าให้หมดจดเลยนะ) จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ถูเบาๆไปทุกส่วนบนหน้าให้เหมือนนวดหน้าไปในตัว เลือดลมจะได้เดินคล่อง

ตัวอย่างเช่น ตอนอาบน้ำฝักบัว เราก็เอาหน้าจ่อไปที่น้ำ (อารมณ์เหมือนเราเล่นมิวสิกวิดิโอ น้ำชะล้างน้ำตา ฮาๆ) ก็ถูแก้มทั้งสองข้างโดยนวดเป็นวงกลมก็ได้ นวดแบบปาดขึ้นโดยใช้นิ้วทั้ง 4  เราก็ปาดไป นับ 1 – 20 ครั้ง หน้าจะได้กระชับด้วย เลือดลมเดินสะดวก แถมผิวก็สะอาดยิ่งขึ้นด้วยนะ

ข้อสอง คือ การกินของมัน ของทอด ของหวาน สิ่งเหล่านี้มันไปส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานเยอะ (ฉันขอไม่ลงลึกในทางการแพทย์นะคะ ขอพูดแบบชาวบ้านๆให้เราเข้าใจง่ายๆกันดีกว่า) พอต่อมไขมันมันผลิตไขมันเยอะ ประกอบกับ ผิวหนังของเรามันผลัดผิวไม่ทัน หรือโดนคราบครีมต่างๆบดบังไว้. . . และนั่นแหละก็เป็นที่มาของการเกิดสิวอุดตัน

สมัยก่อน ฉันชอบกินขนมกรุบกรอบมากกก.. แผ่นบาง แผ่นหยัก กินหมดเป็นถุงๆ หรือจะช็อคโกแลตต่างๆ กินไปได้วันนึง สิวเริ่มนูนๆบนคางแล้วค่ะ ….  แต่หลังจากนั้น พอฉันเริ่มควบคุมความอยากของทอด ของมันไว้ อาการสิวอุดตันก็น้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด พอหลังๆมานี้ เวลาฉันอยากจะกินของมันจริงๆ อาจจะหยิบกินแค่ 5- 6 แผ่น หรือ หยิบช็อคโกแลตกกินสักสองชิ้นแล้วพอ!

ข้อสาม ความเครียด ฉันไม่รู้หรอกว่าในเชิงทางการแพทย์นั้น ความเครียดมันไปก่อสิวได้อย่างไร มันคงมีฮอร์โมนบางอย่างหลั่งออกมามากตอนที่เราเครียด แล้วส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตเยอะ และอาจจะทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก และผิวก็อาจจะผลัดตัวช้าลงไปอีก จึงเป็นเหตุให้เกิดสิวอีกเช่นเคย

ขอนี้ให้แก้ด้วยการออกกำลังกายนะคะ ยิ่งเครียด ยิ่งต้องออกกำลังกาย เครียดมาก ก็ต้องออกกำลังกายให้หนักไปเลย.. อกหักมา อย่ามัวร้องไห้ ไปตีสควอชใส่กำแพง (ตบลูก เหมือนตบหน้าคนๆนั้น ฮ่าๆ) หรือออกกำลังกายที่ชอบ วิ่งก็ดี กระโดดเชือก เต้นเข้าคลาส

รู้หรือเปล่า?1? การออกกำลังกายมันเวิร์คมากสำหรับคนจิตตก อกหัก รักคุด  โดนเจ้านายกลั่นแกล้ง ธุรกิจกำลังจะย่ำแย่ ขออย่าให้หมดกำลังใจกันไป พักจากสิ่งเครียดๆเหล่านั้นสัก 1 ชั่วโมง แล้วไปออกกำลังกายให้เหงื่อโฉก ให้หัวใจได้เต้นตุบตับๆๆ เลือดลมสูบฉีด … สมองของเราจะเปลี่ยนไปค่ะ !!! เครียดเมื่อใด ออกเลยค่ะ!!

ข้อสี่ คือ การขับถ่าย พยายามขับถ่ายให้ได้ทุกวัน อย่าปล่อยให้ท้องผูกนะคะ ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ 2 – 3 แก้ว หลังตื่นนอนก็เป็นการกระตุ้นให้อยากขับถ่าย แต่สำหรับคนที่ต้องรีบไปทำงานแต่เช้าก็ต้องพยายามปรับเวลาร่างกายของเรา ให้เข้าห้องน้ำได้ทันก่อนออกไปทำงาน หรือปรับเวลาให้อยากจะขับถ่ายในช่วงเย็นๆแทน

ข้อห้า คือ การนอนดึก แต่ข้อนี้ อาจจะไม่ได้ส่งผลในเรื่องสิวกับฉันโดยตรง (แต่ก็ถือว่าส่งผลในเรื่องสุขภาพอื่นๆมากมาย)  การนอนดึกสำหรับฉัน อย่างดีก็แค่ ทำให้หน้าโทรม หน้าแก่ก่อนวัยอันควร ตาโหลดำคล้ำเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ (ถ้าอยากหน้าเด็ก ก็ต้องนอนไวๆ สามสี่ทุ่มก็ควรจะเข้านอนแล้ว)

สรุปสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน พยายามทำให้เป็นวินัยกัน เพื่อให้หน้าใส ไกลสิว คือ

1. เช็ดเครื่องสำอางค์ทุกครั้ง และล้างหน้าให้สะอาดหมดจด

2. “ลด”ของทอด ของมัน ของหวาน ถ้าอยากกินมาก ให้สองสามชิ้นแล้วพอ! หรือถ้าหิวปุ๊บ ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปสักแก้วสองแก้ว ร่างกายก็อิ่มแล้วค่ะ + หันมาทานผักผลไม้แทนดีกว่า

3. ยิ่งเครียด ยิ่งต้องไปออกกำลังกาย!!

4. ขับถ่ายคล่อง อย่าให้ท้องผูก

5. นอนให้ไว สี่ทุ่มไม่เกินนี้ (แต่ก็ทำได้ยากสำหรับฉัน ฮ่าา)

6. ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม หมั่นเปลี่ยนให้สะอาดกันด้วยนะคะ + รวมทั้งอย่าไปแตะหน้า แก้ม หรือนั่งเท้าคางกัน!

7. ดื่มน้ำมะเขือเทศดอยคำ วันละกล่อง และดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 1500 มิลลิลิตร
(เป็นอย่างน้อย หรือในเวลากลางวัน พยายามดื่มน้ำสะอาดให้ได้ ชั่วโมงละ 1 แก้วนะแจ๊ะ)

เวลาสิวอุดตัน ลองแต้ม Sudocrem เฉพาะจุดที่เป็นสิวดูนะคะ จากที่เป็นผิวนูนๆเปล่งๆ เจ็บๆ …

พอแต้มปุ๊บ อีกวันนึง หัวสิวขาวๆก็โผล่ออกมาแล้วค่ะ สิวจะไม่อักเสบและหายไวขึ้นค่ะ

หากสิวแตกแล้ว พยายามอย่าไปแตะมัน ล้างหน้าให้สะอาด แล้วทา Sudocrem ตรงบริเวณนั้นทิ้งไว้

*ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นการรักษาสิวเฉพาะตัวของผู้เขียน ถ้าทดลองไปใช้แล้ว เห็นผลหรือไม่เห็นผลอย่างไรมาบอกกันด้วยนะคะ